จากเรียนออนไลน์สู่การเรียนแบบ Home School การเรียนรู้ผ่านกิจกรรม เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ช่วยลูกๆ ต่อยอดการเรียนรู้สู่ความคิดใหม่ๆ
ริเริ่มสร้างสรรค์ ลองในสิ่งใหม่ๆ

ในช่วงสถานการณ์โควิด ที่โรงเรียนยังเปิดไม่ได้ ทำให้เด็กๆต้องเรียนออนไลน์อยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจะเป็นหน้าจอสี่เหลี่ยมที่บ้าน ซึ่งการเรียนแบบนี้อาจไม่ค่อยตอบโจทย์เด็กเล็กๆเท่าไหร่นัก เพราะวัยเด็กนี้เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ เป็นวัยที่ต้องพบปะเพื่อน และทำกิจกรรมกับผู้คนเพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ วันนี้พวกเรา Zero to Hero Activity จึงขออนุญาตนำบทความของคุณแม่ของน้องลานิ ในวัยอนุบาล 2 มาเล่าต่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้เห็นเป็นตัวอย่างนะคะ ว่าสถานการณ์แบบนี้คุณแม่มีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง… โดยวิธี การเรียนรู้ผ่านกิจกรรม โดย Zero to Hero Activity
💭 คุณแม่น้องลานิรู้สึกว่า…..
การสอนออนไลน์ของโรงเรียนอาจไม่ตอบโจทย์กับลานิน้อยลูกสาวของคุณแม่ในวัยอนุบาล 2 (สังเกตได้จากอะไรบ้าง) คุณแม่จึงตัดสินใจจับมือกับคุณพ่อ แล้วไปคุยกับทางโรงเรียนเพื่อให้โรงเรียนปรับแผนการเรียนการสอนให้เหมาะกับวัยอนุบาล แต่ 1 เดือนผ่านไป โรงเรียนก็ยังคงสอนแบบเดิม คุณแม่ได้ตระหนักว่าหากเรียนต่อไปแบบนี้(คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นสมาธิสั้นเกลียดการเรียน) จึงชวนผู้ปกครองท่านอื่นมาทำ Home School แบบ Bubble ด้วยกัน ผลลัพธ์จะเป็นยังไงนั้นลองดูรูป และโพสต์ของคุณแม่ได้เลยค่ะ
ในวันที่แม่รู้สึกว่า การสอนออนไลน์ของโรงเรียนไม่ตอบโจทย์กับลานิน้อยในวัยอนุบาล 2 แม่ไม่อยู่เฉยค่า ตอนแรกแม่ก็จูงมือป่ะป๊า ไปคุยกับโรงเรียนก่อน รอดูฟีดแบค 1 เดือนเต็ม เอิ่ม.. โรงเรียนยังสอนเหมือนเดิม โอเคร โรงเรียนจัดให้ไม่ได้ ถ้าปล่อยไว้ ลานิถดถอยแน่ งั้นแม่จัดเองจ้า
🏫 งานนี้ Homeschool แบบเต็มพิกัดต้องมา
นับเป็นความโชคดี ที่มีผู้ปกครองท่านอื่นเห็นด้วยกับแนวคิด ทำHomeschool แบบ Bubble ให้ลูกๆของเราทั้ง 3 คนมาเรียนด้วยกัน แบบหมุนเวียนบ้าน เรียนบ้านละสัปดาห์
เราจ้างครูปฐมวัยมาคอยช่วยดูเด็กๆเรียนออนไลน์ (พ่อแม่สบายเลย ไม่ต้องสอนเอง ) เราหาครูฝรั่งNativeมาสอนภาษาอังกฤษ หาครูจบจากเมืองจีนมาสอนภาษาจีน เด็กๆได้พูดภาษาอังกฤษภาษาจีนทุกวัน เค้าไม่กลัวฝรั่งเลย พูดคล่อง ตอบเร็ว ได้ 3ภาษา แถมเค้าอารมณ์ดี เพราะได้วิ่งเล่นกับเพื่อน ได้ทำกิจกรรมด้วยกัน เล่นกันจนหัวเปียกทุกวัน รักกันบ้าง ตีกันบ้าง ตามประสา เรียกได้ว่า ได้ทั้งวิชาการ ได้ทั้งประสบการณ์ และแม่ก็ไม่ต้องเป็นยักษ์ เพราะมีคุณครูตัวจริงมาช่วยสอนลูกเรา
💖 โชคดีที่เจอแม่ๆที่น่ารักอีกทั้ง 2 ครอบครัว
💖 โชคดีที่เจอคุณครูนิสัยจิตใจดี
💖 โชคดีเราได้ครูฝรั่ง และครูจีนที่เก่งที่ดี
💖 โชคดีที่คุณสามีทั้งเชื่อทั้งสนับสนุน
และที่สำคัญ โชคดีที่ตัวเรากล้าคิด กล้าตัดสินใจ
ตอนนี้ ลานิเป็นเด็กนอกระบบแล้ว แต่แม่กลับรู้สึกว่า เราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเราแล้ว จากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่รับผิดชอบชีวิตหนู 100%
ปล.1 ทางโรงเรียนเค้าไม่มีนโยบายดรอปค่ะ พวกเราก็เลยตัดสินใจให้ลูกลาออกเลยละกัน
จากเหตุการณ์ข้างต้น คุณพ่อคุณแม่น่าจะพอเห็นภาพนะคะว่า การศึกษาไม่ได้มีอยู่แค่ในโรงเรียนเท่านั้น เพราะบ้านก็สามารถเป็นห้องเรียนสำหรับเด็กๆได้เช่นกัน การทำ Home School ก็เป็นการศึกษาทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ นอกจากนี้ยังน่าติดตามนะคะว่าอนาคตของการศึกษาไทยจะเป็นอย่างไร ในวันที่การเรียนในห้องเรียนและโรงเรียนอาจมีบทบาทน้อยลง และการศึกษานอกห้องเรียนที่มุ่งเน้นไปตามความต้องการและความถนัดของลูกได้อย่างอิสระอาจมีบทบาทมากขึ้นค่ะ
ที่มา: SkyCoach Mam
https://www.facebook.com/SkyCoachMam
การเรียนเรียนรู้ผ่านกิจกรรมมีประโยชน์อย่างไร? Click!